
ตัวเลขมูลค่าราว 380,000 ล้านบาท คือ เม็ดเงินที่ภาคการเกษตรไทยส่งออกสินค้าไปขายในประเทศจีนในปีที่ 2566 ผ่านมา โดยส่วนใหญ่การส่งออกสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศจีน จะส่งไปในรูปแบบการค้าทั่วไป (General Trade) แต่ที่น่าสนใจ คือ มีรูปแบบการส่งสินค้าที่่ผู้ประกอบการจำนวนมากไม่ทราบสิทธิประโยชน์ที่ในการส่งไปขายยังประเทศจีน โดยที่มีต้นทุนที่ถูกกว่า นั่นคือ Cross Border E-Commerce (CBEC) หรือ การค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน
รองผู้อำนวยการ (วิชาการ) สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา อธิบายถึงรูปแบบการค้า Cross Border E-Commerce (CBEC) ว่า เป็นช่องทางการค้าขายระหว่างประเทศ หรือ การส่งออกสินค้าไปขายยังประเทศจีน โดยไม่จำเป็นต้องตั้งสาขา หรือมีตัวกลางในการจำหน่ายสินค้าในประเทศปลายทาง ข้อดี คือ ลดต้นทุน เพิ่มกำไรแก่ผู้ค้า CBEC จะใช้กลไกการนำสินค้าบางส่วนไปสต็อกไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน หรือ Bonded Warehouse ที่มีอยู่มากกว่า 100 แห่งในประเทศจีน และเมื่อมีคำสั่งซื้อ จึงเข้าสู่กระบวนการจัดส่งแต่ละออเดอร์ ในรูปแบบการขายปลีก โดยที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องลงทุนสินค้าไปสต็อกใหญ่
ส่วนวิธีการสั่งสินค้า คนจีนสามารถใช้แพลทฟอร์มของจีนสั่งสินค้า CBEC จากไทยไปจีนได้ เช่น 1.Taobao 2.JD International 3.Tmall Global และ 4. Vip เป็นต้น โดยมีเงื่อนไข คือ ทางรัฐบาลกำหนด คนจีน 1 คน สามารถสั่งสินค้าจากแพลทฟอร์มออนไลน์ ได้ไม่เกิน 26,000 หยวน หรือ 230,000 บาทต่อปี
สำหรับสินค้าของไทย ที่อยู่ใน Positive List ส่งออกไปจีน มีอยู่ราว 1,500 พิกัดศุลกากร ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีศุลากากรสำหรับนำเข้า และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 9% จากปกติร้อยละ 13% ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มผลไม้สด สินค้าเกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ กลุ่มอาหารอนาคต อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าต่อยอดเชิงวัฒนธรรม และ สินค้าที่เป็น Soft Power เป็นต้น โดยที่สินค้าไม่จำเป็นต้องผ่านมาตรฐาน CFDA (China Food and Drug Administration) หรือ อย.ของจีน รวมถึงสินค้าที่นำเข้าไม่ต้องขอเอกสารประกอบใบอนุญาตนำเข้าครั้งแรก
ทั้งนี้ แนะนำผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเริ่มต้นหาสินค้าส่งไปจำหน่ายในประเทศจีน ควรเจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดจีนที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการหาข้อมูลพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ สร้างเรื่องราวและแบรนด์ดิ้งให้กับสินค้า โดยนำสินค้าที่มีอยู่ในตลาดมาพัฒนาให้มีคุณภาพยกระดับผ่านนวัตกรรม ให้มีความโดดเด่น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ลูกค้าชาวจีนนิยมสินค้าไทยเป็นทุนเดิม อย่าง เช่น นมเม็ดจิตรลดา ถือเป็นสินค้าเกษตรที่ต่อยอดสินค้าจากนมวัวและกลายเป็นถูกใจชาวจีน จนติดตลาดมาถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ของผู้ประกอบการรายเล็ก ควรสร้างร่วมมือกับ Big Brother ซึ่งจะเป็นช่วยการันตีว่าสินค้านี้มีคุณภาพ และอยู่ใน Digital Footprint ง่ายต่อการหาข้อมูลของลูกค้าจีน ยกตัวอย่าง เช่น แบรนด์ Good Goods ที่มีจำหน่าย จริงใจ มาร์เกต ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จ.เชียงใหม่ เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายจากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน
Comments